ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองใน โอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539  ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง มีรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นมองเห็นแต่ไกลจากท้องถนน  ภายในพื้นที่ประกอบด้วย ศาลเข้าพ่อหลักเมือง พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร หมู่บ้านมังกรสวรรค์  ทุกโซนเข้าชมฟรี ยกเว้นพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

มังกรสัตว์เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักกันดี ลำตัวมังกรภายนอกออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะความเชื่อ หน้าต้องเป็นอูฐ ตาเหมือนกระต่าย มองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น มีเขาของกวาง หูของวัว ตัวของงู เกล็ดของปลา ขาของเสือ อุ้งเท้าของ เหยี่ยว สีของลำตัวเลียนแบบเครื่องกังไสโบราณ บริเวณด้านหน้าของมังกร ยังมีรูปปั้นสีดำเป็นรูปปั้นจอมยุทธจีในขบวนท่าต่างๆ ที่อ่อนช้อนสวยงาม ภายใต้ท้องมังกร คือ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ที่ต้องเสียค่าเข้าชม ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 299 บาท เด็กนักเรียน/ผู้สูงอายุ 149  บาท (เด็กเล็กเข้าฟรี)  

หมู่บ้านมังกรสวรรค์ จำลองมากจาหมู่บ้านลี่เจียง 1000 ปี สถาปัตยกรรมล่าสุดที่ทางจังหวัดสุพรรณบุรีสร้างขึ้นมาเพื่อจำลองเมืองหมู่บ้านลี่เจียง ประเทศจีน  ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลกที่มีความเก่าแก่ถึง 1,000 ปี มาเที่ยวหมู่บ้านมังกรสวรรค์ก็จะได้บรรยากาศของหมู่บ้านจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า โรงเตี้ยมสไตล์จีนโบราณ โรงหนัง และสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ กังหันพ่อลูก เป็นกังหันไม้โบราณพันปีที่อยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีหอชมวิวซึ่งสามารถชมวิวของเมืองสุพรรณได้ในมุมสูง หน้าหอชมวิวคือ เสามังกรสววรค์ที่มาจากเมืองเซียะเหมิน หมู่บ้านมังกรสวรรค์ เปิดบริการทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชม

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี มาเริ่มกันที่ อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ค่ะ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นสถานที่เคารพของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งหลายคนเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้แล้ว จะนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ความสำเร็จ และความสุขค่ะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว รูปแบบ วิถีชีวิตของชนชาวจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชนชาวไทยของเรามาตั้งแต่อดีตอีกด้วย

เจ้าพ่อหลักเมือง เป็นประติมากรรมสลักหินนูนต่ำ ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เป็นศาสนาที่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ธิเบต ญวณ และเขมรนับถืออยู่ เป็นศิลปะเขมรอายุประมาณ 1,300-1,400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่า พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือที่เรียกกันว่า พระนารายณ์สี่กร นั่นเอง เป็นที่สักการบูชาทั้งชาวไทย และชาวจีน เพราะฉะนั้น ถ้าเรามาถึงเมืองสุพรรณต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะก่อนไปเที่ยวที่อื่นๆ นะคะ

มาต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองค่ะ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของจีน แบ่งเป็นห้อง 18 ห้อง ซึ่งมีแสงสีเสียง และเทคนิคพิเศษในการทำให้พิพิธภัณฑ์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ เช่น การให้ตัวการ์ตูนมังกรมาเป็นผู้ดำเนินเรื่อง เล่าเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจีน และตำนานการกำเนิดโลกนี้ขึ้นมาตามความเชื่อของจีน ลดทอนความยากของการเข้าถึงเนื้อหาในลักษณะประวัติศาสตร์ได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากประวัติศาสตร์อารยธรรมของชาวจีน ย้อนหลังไปถึง 5 พันปี ที่จะอธิบายตั้งแต่ การกำเนิด แนวคิด และคติชีวิตของชาวจีน รวมไปถึงประวัติโดยย่อของราชวงศ์ต่างๆ เช่น ราชวงศ์ผานกู่ หวงตี้ เหยียนตี้ เซี่ย ชาง โจว จิ๋น ฮั่น ยุคสามก๊ก สุย ถัง ซ่ง หยวน หมิง และราชวงศ์ชิง นอกจากนั้นยังรวบรวมความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ที่ทั้งหมดจะดำเนินเรื่องผ่านการจำลองเหตุการณ์ พร้อมมีป้าย และคำบรรยายทั้งหมด 3 ภาษาด้วยกันค่ะ ใครอินในเรื่องของวรรณคดีที่เป็นตำนานอย่างสามก๊ก หรือ ละครที่สร้างความโด่งดังให้กับประเทศจีนอย่าง เปาบุ้นจิ้น ก็มีหุ่นจำลองอยู่ที่นี่อีกด้วย เพราะฉะนั้น เรียกได้ว่า ที่นี่จำลองความเป็นประเทศจีนมาไว้ให้ได้ศึกษา และเพลิดเพลินอย่างครบถ้วนเลยทีเดียวค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยาน

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เมื่อประมาณ 150 ปีก่อน ชาวบ้านพบเทวรูปนูนต่ำ สี่กร ลอยน้ำมา 2 องค์ ช่วยกันชักขึ้นอย่างไรก็ไม่สำเร็จ กระทั่งต้องทำพิธีบวงสรวงโดยบอกท่านว่าหากขึ้น จะสร้างศาลให้ท่าน กระทั่งกลายเป็นเจ้าพ่อหลักเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ เจ้าพ่อหลักเมืองเป็นเทวรูปหินสีเขียว (ปัจจุบันถูกปิดทอง) ลายนูนต่ำ ศิลปะไพรกเมง (ขอม) อายุประมาณ 1,300-1,400 ปี ลักษณะเป็นบุรุษเพศ สี่กร จากอาวุธที่ถือสันนิษฐานได้ว่าองค์หนึ่ง คือ พระอิศวรเพราะถือตรีศูล อีกองค์ คือ พระนารายณ์เพราะถือจักร เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณมีความศักดิ์สิทธิ์มากจนได้รับความเคารพสักการะทั้งจากชาวไทยและชาวจีน กระทั่งกล่าวกันว่าท่านคือ “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร”

โดยปกติแล้วเมื่อกล่าวถึงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเจ้าแม่กวนอิม ทั้งที่ในความจริงแล้วคติความเชื่อเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรดั้งเดิมเกิดขึ้นในชมพูทวีป มีทั้งเพศชายและเพศหญิง โดยคำว่า “อวโลกิเตศวร” ในภาษาสันสกฤตแปลว่า “ผู้เฝ้ามองจากเบื้องบน” แม้คติความเชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศหญิงผู้ทรงเมตตาได้เผยแพร่ไปในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น แต่คติความเชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศชายที่เกิดจากญาณของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ นั้น กลับเผยแพร่ลงมาทางใต้ ดังจะเห็นได้จากรูปปั้นสำริดพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพศชาย ศิลปะศรีวิชัย พบในเกาะสุมาตราและชวา และพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรศิลปะทวารวดีในพิพิธภัณฑ์อู่ทอง ลักษณะเป็นบุรุษเพศ มี 3 กร บ้าง 4 กรบ้าง สวมพระมาลาทรงกระบอก คล้ายพระมาลาของเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ ดังนั้นความเชื่อที่ว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเป็นเพศชายจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลจากคติความเชื่อโบราณ และเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณก็อาจเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรจริงๆ ก็เป็นได้

อุทยานพุทธบัญชา จุดเด่นของอุทยานคือเจดีย์พุทธบัญชา

เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสูง 5 ชั้น ที่ก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ภายในประดิษฐานพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียง ปางประทับนั่งบนปัทมาสน์ ล้อมรอบด้วยรูปหล่อทองเหลืองพระอรหันต์ 18 องค์ โดยพระยูไลองค์นี้เบิกเนตรโดยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตรเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย พระยูไลหรือยูไลฮุดโจว ในภาษาแต้จิ๋ว เป็นคำเรียกพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ โดยไม่ระบุว่าเป็นพระองค์ไหน พระยูไลที่ชาวจีนนิยมนับถือมีอยู่ด้วยกัน 3 พระองค์ คือ พระยูไลถือดอกบัว พระยูไลถือดวงแก้ว และพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียง สำหรับพระยูไลถือเจดีย์บุ๋งเซียงนี้เป็นพระยูไลที่จะดึงสรรพสัตว์ดุร้ายกิเลสหนามากักขังในเจดีย์บุ๋ยเซียง ให้สัตว์นั้นลดทิฐิลง แล้วจึงเทศนาโปรดสัตว์ตนนั้นจนหลุดพ้น

หมู่บ้านมังกรสวรรค์ หมู่บ้านแห่งนี้จำลองมาจากหมู่บ้านลี่เจียง หมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก อายุกว่า 1,000 ปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในเมืองโบราณจริงๆ นอกจากจะถ่ายรูปแล้ว ยังสามารถซื้อหาข้าวของและเลือกใช้บริการร้านรวงในหมู่บ้าน เช่น โรงนวด โรงเตี๊ยม เหลาก๋วยจั๊บ และร้านขายของที่ระลึก ทั้งหมดตกแต่งทั้งภายนอกและภายในแบบจีนโบราณ จุดเด่นของหมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวจะพลาดชมไม่ได้ มีอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ

– หอชมวิว หอสูง 4 ชั้น หลังคาเก๋งจีน ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนทางตอนใต้โบราณ จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมุมสูงของจังหวัดสุพรรณบุรีได้ 360 องศา

– กังหันหน้าหมู่บ้าน ในหมู่บ้านโบราณลี่เจียงมีกังหันพ่อลูกเป็นแลนด์มาร์กของหมู่บ้าน โดยกังหันพ่อลูกเป็นกังหันไม้อายุ 1,000 ปี 2 อัน ขนาดเล็ก 1 อัน ขนาดใหญ่ 1 อัน วางเหลื่อมกันในน้ำ ที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์ก็จำลองกังหันเอาไว้หน้าหมู่บ้านด้วยเช่นกัน จุดนี้จึงเป็นจุดที่หากนักท่องเที่ยวไม่ไปถ่ายรูป ก็เรียกว่าไปไม่ถึงเลยทีเดียว

– เสามังกรสวรรค์ เยื้องกับหอชมวิวมีเสาสูงสลักลายงดงามตั้งตระหง่านอยู่ เสานี้คือเสามังกรสวรรค์จากเมืองเซี๊ยะเหมิน ประเทศจีน โดยเมืองเซี๊ยะเหมินเป็นเสมือนเมืองหน้าด่านก่อนเข้าสู่เมืองหลวงของจีนในอดีตกาล ปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เมื่อไปถึงบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง นักท่องเที่ยวย่อมสังเกตเห็นมังกรตัวใหญ่ได้อย่างชัดเจน มังกรตัวนี้ไม่ใช่แค่เป็นแลนด์มาร์ก หรือสถานที่สำหรับเซลฟี่เท่านั้น แต่ฐานของมังกรเป็นอาคารที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนที่มีอายุยาวนานกว่า 5,000 ปี รวมถึงประวัติคนไทยเชื้อสายจีนหรือลูกหลานคนจีนในไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เล่าประวัติศาสตร์ด้วยหุ่นขี้ผึ้ง เริ่มตั้งแต่เจ้าแม่หนีฮวาสร้างมนุษย์ ตามด้วยหุ่นเสินหนง หัวหน้าเผ่าแซ่เจียง เมื่อ 5,000 ปีก่อน เล่ากันว่าเขาเป็นผู้ค้นพบการดื่มชา และสร้างปฏิทินดาราศาสตร์ ตามด้วยเหตุการณ์และบุคคลสำคัญตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ชาง โจว จิ๋น เรื่อยมาจนถึงหมิง และชิง มาจนถึงยุคสาธารณรัฐ สังคมนิยม และการเมืองสังคมนิยมเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างในปัจจุบัน

บทความน่าสนใจ